ตอนนี้เรียกว่าใครๆก็อยากเป็น "ออเจ้า" หรือ "แม่หญิงการะเกด" กันไปหมดแล้ว สำหรับละครเรื่อง "บุพเพสันนิวาส" ที่โด่งดังไปไกลถึงต่างแดน ซึ่งจากละครเรื่องนี้นี่เองที่ทำให้แฟนละครสนใจมาเที่ยวตามรอยละครกันมากขึ้น ซึ่งวันนี้จะมาแนะนำสถานที่ตามรอยละครให้รู้จักกันคะ
1.เมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ
หากพูดถึงเมืองโบราณจังหวัดสมุทรปราการนั้น บางท่านอาจจะยังไม่รู้ว่า ที่นี่คือเบื้องหลังแห่งความสำเร็จของหนังและละครไทยหลายๆ เรื่อง ที่นี่คือสถานที่ถ่ายทำละครและหนังย้อนยุคมาหลายเรื่องแล้ว
และเช่นกัน ละครเรื่องบุพเพสันนิวาสก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ใช้เมืองโบราณแห่งนี้เป็นสถานที่ถ่ายทำ และถ่ายทอดบรรยากาศแห่งตลาดน้ำสมัยโบราณออกมาได้อย่างสมจริง
2.วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา
ถือเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์อยู่ช่วงหนึ่งเลยทีเดียวสำหรับฉากวัดไชยวัฒนารามที่ปรากฏอยู่ในละครเรื่องบุพเพสันนิวาส เนื่องจากมีการใช้ซีจีในการเนรมิตวัดเก่าแก่แห่งนี้ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
ทั้งป้อมปราการ ศาสนสถานภายในวัดล้วนถูกบูรณะตกแต่งใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความงดงามในแบบฉบับไทยๆ
3.วัดพุทไธศวรรย์ จ.พระนครศรีอยุธยา
วัดพุทไธศวรรย์ วัดสำคัญในประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตก ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอู่ทอง เพื่อเป็นพระราชอนุสรณ์ในการสถาปนากรุงศรีอยุธยา
และต่อมาในช่วงเสียกรุงครั้งที่หนึ่ง วัดพุทไธศวรรย์ได้ถูกทำลายไปโดยกองทัพของพม่า แต่โดนทำลายไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับวัดอื่นๆ ในเขตกรุงศรีอยุธยา ทำให้วัดแห่งนี้ความสมบูรณ์และสวยงามคงอยู่มาถึงทุกวันนี้
ซึ่งในละครเรื่องบุพเพสันนิวาสนั้นก็ได้ใช้ฉากหลังของวัดพุทไธศวรรย์แห่งนี้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำด้วย
4.เพนียดคล้องช้าง จ.พระนครศรีอยุธยา
ในละครเรื่องบุพเพสันนิวาสเราจะได้เห็นฉากต่อสู้หนึ่งที่มีเบื้องหลังคือเพนียดคล้องช้างซึ่งสถานที่ถ่ายทำแห่งนี้ก็คือ เพนียดคล้องช้าง จังหวัดพระนครศรีอยุธยานั่นเอง
ด้วยความที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้อนุรักษ์และรักษาเพนียดคล้องช้างแห่งนี้ให้อยู่ในสภาพเหมือนกับสมัยโบราณมากที่สุด ทำให้ที่นี่กลายเป็นโลเคชั่นที่ดีในการถ่ายทำละครย้อนยุคหลายๆ เรื่อง
และมีชาวต่างชาติรวมถึงชาวไทยเดินทางไปเที่ยวชมเจ้าช้างแสนรู้ที่เพนียดคล้องช้างแห่งนี้กันเป็นจำนวนมากในแต่ละวันอีกด้วย
5.ป้อมเพชร จ.พระนครศรีอยุธยา
ป้อมเพชรแห่งนี้คือป้อมปราการสำคัญในยุคกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยารอยต่อแม่น้ำป่าสัก ตรงข้ามกับวัดพนัญเชิงวรมหาวิหาร
ในอดีตป้อมเพชรแห่งนี้เป็นปราการด่านสำคัญที่คอยสกัดไม่ให้ข้าศึกผู้มารุกรานผ่านทางแม่น้ำนั้นรุกล้ำเข้าไปสู่พระนครได้
6.อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
แน่นอนว่าละครย้อนยุคในช่วงยุคสมัยอยุธยานั้น มักจะมีโลเคชั่นการถ่ายทำในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาแห่งนี้
และละครเรื่องบุพเพสันนิวาสเองก็ได้ชื่อว่าเป็นละครที่ถ่ายทำในสถานที่จริงอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่จะมีฉากที่เราได้เห็นกันในละครเป็นอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาแห่งนี้
ซึ่งความขลังของสถานที่ที่ถ่ายทอดออกมาสู่สายตาประชาชนผ่านจอทีวีนั้น เป็นพลังที่ทำให้หลายๆ คนอินตามไปกับเรื่องนี้ ประหนึ่งว่าได้ย้อนเวลากลับไปรับรู้เรื่องราวของคนในอดีตเลยทีเดียว
7.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา จ.พระนครศรีอยุธยา
สถานที่แห่งนี้ได้เก็บรวบรวมสมบัติล้ำค่าในอดีตของประเทศไทยไว้อย่างมากมาย ทั้งเครื่องมือ เครื่องใช้ และวัตถุโบราณต่างๆ เก็บรวบรวมไว้ที่นี่
ซึ่งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยานี้ก็ได้ชื่อว่าเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทยอีกด้วย
8.หอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวน จ.สระบุรี
บ้านไม้ทรงไทยสมัยโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้โดย คุณทรงชัย วรรณกุล ซึ่งต้องการจะอนุรักษ์วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวไทยวนเอาไว้
โดยเริ่มจากการรวบรวมบ้านไม้โบราณ เช่น เรือนเจ้าเมืองสระบุรี เรือนของพันตรีหลวงจบกระบวนยุทธ เรือนของเสือคง โจรเลื่องชื่อในอดีตในจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นต้น เพื่อใช้เป็นแหล่งเรียนรู้แก่คนรุ่นหลังสืบต่อไป
9.วัดเชิงท่า จ.พระนครศรีอยุธยา
ภายในวัดเชิงท่าแห่งนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยศาสนสถานและวัตถุโบราณที่มีค่าอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย ทั้งพระปรางค์ห้ายอดสมัยอยุธยา ซึ่งมีลักษณะพิเศษไม่เหมือนที่อื่น หาชมที่อื่นไม่ได้
นอกจากนี้ยังมีซากปรักหักพังของศาสนสถานภายในวัดที่เป็นเครื่องหมายแห่งความเก่าแก่และโบราณของวัดนี้ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญที่สุดวัดแห่งนี้ยังเป็นที่ศึกษาของนายสิน หรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในช่วงทรงพระเยาว์อีกด้วย
10.วัดธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา
วัดธรรมารามแห่งนี้มีอายุไม่ต่ำกว่า 400 ปี สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ตั้งอยู่ใกล้กับปากแม่น้ำลพบุรี ในอดีตความสำคัญของวัดนี้ เคยถูกใช้เป็นฐานที่มั่นในการตั้งค่ายของพม่าที่มารุกรานประเทศไทย เรื่องจากมียุทธภูมิที่ดี
และเมื่อกรุงศรีอยุธยาได้เสียกรุงให้แก่พม่า วัดแห่งนี้ก็ได้ถูกเผาทำลายลงไปด้วย แต่ก็ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ในสมัยรัตนโกสินทร์ วัดนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งวัดสำคัญของกรุงศรีอยุธยาเลยทีเดียว
ในปัจจุบันวัดธรรมารามได้เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกแห่งหนึ่ง
cr. https://www.sanook.com/travel/1409609/
cr. https://www.sanook.com/travel/1409609/