Wednesday, April 25, 2018

Ayuthaya

Ayuthaya


   The Thai kings of Ayuthaya grew very powerful in the 14th and 15th centuries, taking over U Thong and Lopburi, former Khmer strongholds, and moving east in their conquests until Angkor was defeated in 1431. Even though the Khmers were their adversaries in battle, the Ayuthaya kings adopted large portions of Khmer court customs and language. One result of this acculturation was that the Thai monarch gained more absolute authority during the Ayuthaya period and assumed the title devaraja (god-king; thewárâat in Thai) as opposed to the dhammaraja (dharma-king; thammárâat) title used in Sukhothai.
   Ayuthaya was one of the greatest and wealthiest cities in Asia at the time, a thriving seaport that entertained emissaries and traders from Europe, China and beyond. In 1690 Londoner Engelbert Campfer proclaimed, ‘Among the Asian nations, the Kingdom of Siam is the greatest. The magnificence of the Ayuthaya Court is incomparable. It has been said that London, at the time, was a mere village in comparison. The kingdom sustained an unbroken 400-year monarchical succession through 34 reigns, from King U Thong (r 1350–69) to King Ekathat (r 1758–67).

   In the mid-16th century Ayuthaya and the independent kingdom of Lanna came under the control of the Burmese, but the Thais regained rule of both by the end of the century. Later attempts by the Burmese were successful in invading Ayuthaya in 1765 and the capital fell after two years of fighting. This time the invaders destroyed everything sacred to the Thais, including manuscripts, temples and religious sculpture. But the Burmese were unable to maintain a foothold in the kingdom, and the military leader Phraya Taksin, a half-Chinese, half-Thai general, re-established order in the kingdom, claimed the vacated monarchy for himself in 1769, and began ruling from the new capital of Thonburi on the banks of the Mae Nam Chao Phraya, opposite Bangkok. Taksin eventually came to regard himself as the next Buddha; his ministers, who did not approve of his religious fantasies, deposed and then executed him.

cr: https://www.lonelyplanet.com/thailand/history

Monday, April 23, 2018

ประวัติห้างสรรพสินค้าแฟรี่ พลาซ่า ขอนแก่น

   แฟรี่ พลาซ่า ขอนแก่น เป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ มีสินค้าต่างๆมากมาย และเป็นห้างสรรพสินค้าที่เปิดมานานมากกว่า 50 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2509 โดยนายวรพงษ์ พัฒนพีระเดช และในปี 2538 ได้เปิดศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่ พลาซ่า สาขากลางเมือง เนื่องจากแฟรี่ พลาซ่าแห่งเก่า ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้าง Hugz Mall ในปัจจุบัน เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ขึ้น

แฟรี่ พลาซ่าแห่งเก่า

   ซึ่งปัจจุบัน ศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่ พลาซ่าประกอบได้ด้วย อาคารพื้นที่ขายส่วนเดิม 2 ชั้น เป็น ส่วนห้างสรรพสินค้า, ซูเปอร์มาร์เก็ตโดยตลาดโลตัส , ร้านค้าท้องถิ่น และร้านอาหารต่างๆ เช่น ที่ชั้น 1 ได้แก่ KFC, McDonalds, The Pizza Company, Swensens, Black Canyon, Daidomon, ร้านขนมจีนบุฟเฟ่ต์กินเส้น ฯลฯ บริเวณชั้น 2 ได้แก่ Chester's Grill, Hachiban Ramen, ต้มยำจิ๊กโก๋, ร้านอาหารไทยบุฟเฟต์อิ่มดี, จุดสามจุด, Mochi Mochi และร้านค้าต่างๆ ส่วนโรงภาพยนตร์ในส่วนขยายจะอยู่ชั้นที่ 3-5 โดยมี 4 โรงชื่อโรงภาพยนตร์แฟรี่ ซินิเพล็กซ์

แฟรี่ พลาซ่าแห่งใหม่

Wednesday, April 18, 2018

สงกรานต์ขอนแก่น 2561 (Songkran Khon Kaen Festival 2018)

   ขอนแก่น เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ขึ้นชื่อได้ว่าจัดสงกรานต์ได้สนุกและยิ่งใหญ่ทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณ "ถนนข้าวเหนียว" ที่มีการเล่น "คลื่นมนุษย์" ทุกปีและมีการบันทึก ทำลายสถิติกินเนสบุ๊คทุกปี แต่ไม่ใช่แค่ถนนข้าวเหนียวเท่านั้นที่มีการเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน แต่ก็มีอีกหลายที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานคึกคักมากมาย ไม่ว่าจะเป็นถนนหลังเมือง, ถนนกลางเมือง, ถนนหน้าเมือง, ถนนเมืองเก่าและบริเวณรอบริมบึงแก่นนคร ส่วนบรรยากาศจะเป็นยังไงนั้น ไปดูกันเลยคะ


ขบวนแห่เปิดเทศกาลสงกรานต์

ขอบคุณภาพจาก ขอนแก่นลิ้งค์

คุณ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่
คลื่นมนุษย์

ขอบคุณภาพจาก ไทยรัฐออนไลน์


สงกรานต์ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น 
นำโดย รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น

ขอบคุณภาพจาก http://sciencepark.kku.ac.th


Sunday, April 15, 2018

เที่ยวบ้านลุงโฮ

   

   "บ้านลุงโฮ" หรือที่มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า "บ้านท่านโฮจิมินห์"  ตั้งอยู่ที่  หมู่บ้านนาจอก ตำบลหนองญาติ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เป็น อีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ที่ได้มีการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ ซึ่งสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ ที่ครั้งหนึ่ง อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นายโฮจิมินห์ได้เคยเข้ามาอาศัยพึ่งพระบรมโพธิสมภาร พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อกอบกู้เอกราชของเวียดนามในช่วงระหว่างการทำสงคราม เพื่อเตรียมการ ปฏิวัติสู้กับประเทศฝรั่งเศษ   โดยในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2467–2474 ลุงโฮได้ย้ายมาอยู่ที่จังหวัดนครพนม โดยมาอาศัยอยู่กับเพื่อนที่ มาจากเวียดนามที่ถือได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทร่วมอุดมการณ์เดียวกัน  เพื่อนสนิทของลุงโฮนั้นเองได้เดินทางเข้ามาพำนักอาศัยอยู่ใน ประเทศไทยและมีครอบครัวที่ประเทศไทย

   ซึ่งปัจจุบันบ้านหลังนี้ได้มีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาและเป็นสถานที่แสดงประวัติเกี่ยวกับลุงโฮรวมถึงบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และ เรื่องราวการใช้ชีวิตของลุงโฮที่ประเทศไทยโดยในปัจจุบัน ภายในบ้านลุงโฮจะแบ่งบ้านเป็น 2 หลังบ้านหลังแรกตั้งอยู่ด้านหน้า  คือ บ้านของเพื่อนคนสนิทลุงโฮ ที่เข้ามาเคลื่อนไหวจัดตั้ง ต่อมากลายเป็นที่พักลุงโฮจุดแรกในจังหวัดนครพนม
   
   บ้านพักอาศัยของลุงโฮ ตั้งอยู่ด้านหลังของบ้านคนสนิท  แทรกตัวอยู่ท่ามกลางความร่มรื่นของแมกไม้นานานชนิด ที่ลุงโฮได้ปลูกไว้ ได้แก่ ต้นมะพร้าว หมาก พลู กล้วย  ภายในบ้านถูกแบ่งออกเป็นสามห้อง คือสองห้องนอน หนึ่งห้องโถง   มีข้าวของเครื่องใช้ที่จำลอง ในสมัยก่อนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงาน ห้องนอน  บ้องสูบยา ภายในยังมีรูปเกี่ยวกับชีวะประวัติท่านประธานโฮจิมินห์ เพื่อให้คง บรรยากาศเดิม ๆ ไว้

บ้านหลังใหม่ที่รับบาลเวียดนามสร้างขึ้น

   รายละเอียดเพิ่มเติม เวลาเปิดทำการ  08.30 - 16.30  ไม่เสียค่าเข้าชม  บ้านหลังแรกของลุงโฮ จะเป็นหลังนี้ แต่ปัจจุบันทางการเวียดนามได้สนับสนุน การสร้างบ้านลุงโฮจิมินห์ หลังใหม่อยู่ที่หน้าพิพิธภัณฑ์ประธานโฮจิมินห์ หากนักท่องเที่ยวจะมาดูบ้านหลักแรก ในพื้นที่จริงต้องมา ที่บ้านนี้

   การเดินทาง จากตัวจังหวัดนครพนมมุ่งหน้าไปทางจังหวัดสกลนคร ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 22 ห่างจากตัวอำเภอเมืองประมาณ 4 กิโลเมตร จะเป็นโค้ง มีป้ายบอกทางไปหมู่บ้านมิตรภาพไทย – เวียดนาม ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 238 ขับเข้าไปจะพบป้าย บ้านนาจอก ขับไปตามป้ายก็จะพบกับพิพิธภัณฑ์ท่านประธานโฮจิมิน ขับเลยไปอีกประมาณ 300 เมตร ก็จะเป็นที่ตั้งของบ้านลุงโฮหลังแรก

ที่มา: http://www.paiduaykan.com/province/Northeast/nakhonphanom/hochimin-house.html

Friday, April 13, 2018

นางสงกรานต์ 2561

   ในเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี ก็จะมีนางสงกรานต์ของแต่ละปี สลับสับเปลี่ยนกันไป เป็นเหมือนการทำนายดวงของแต่ละปี ปีนี้คือ
นางสงกรานต์ 2561นางสงกรานต์ 2561
นางสงกรานต์ปี 2561 มีนามว่า "นางมโหธรเทวี" ทรงพาหุรัด ทัดดอกสามหาว(ผักตบชวา) อาภรณ์แก้วนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทราย หัตถ์ขวาทรงจักร หัตถ์ซ้ายทรงตรีศูล เสด็จยืน มาเหนือหลังมยุรา(นกยุง) เป็นพาหนะ
เกณฑ์พิรุณศาสตร์ ปีนี้ พุธ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 600 ห่า ตกในเขาจักรวาล 240 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 180 ห่า ตกในมหาสมุทร 120 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 60 ห่า
เกณฑ์ธาราธิคุณ ชื่อ เตโช(ธาตุไฟ) น้ำน้อย อากาศยังร้อน
เกณฑ์นาคราชให้น้ำ ปีจอ นาคราชให้น้ำ 7 ตัว ทำนายว่า ฝนต้นปีน้อย กลางปีงาม แต่ปลายปีมากแล ฯ
เกณฑ์ธัญญาหารชื่อ ลาภะ ข้าวกล้าในนา จะได้ 10 ส่วน เสียเพียงส่วนเดียว ธัญญาหาร มังสาหารบริบูรณ์ ประชาชนทั้งหลายจะอยู่เย็นเป็นสุข ฯ
ที่มา: http://campus.sanook.com/912340/

Thursday, April 12, 2018

ตามรอยภาพยนตร์และละครดัง

   เดี๋ยวนี้กระแส "ออเจ้า" จากละครเรื่อง "บุพเพสันนิวาส" กำลังมาแรง ทำให้กระแสการท่องเที่ยวไทยกลับมาบูมอีกครั้งนึง คนไทยหันกลับมาเที่ยวไทยมากขึ้น ครั้งที่แล้วเราได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวตามรอยเรื่องนี้กันไปแล้ว ครั้งนี้เราจะพาไปตามรอยภาพยนตรืและละครอีกหลากหลายเรื่องที่มีสถานที่สวยงามและน่าท่องเที่ยวกันคะ

1.ละครรากนครา

สถานที่ The Dhara Dhevi Chiang Mai (โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่) จังหวัด เชียงใหม่


   โรงแรม 5 ดาวชื่อดัง ขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมล้านนาที่สวยงาม มีความโบราณและมนตร์ขลังที่ดึงดูดให้ไปเที่ยวและพักมากมาย

2. The Letter จดหมายรัก

สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จังหวัด เชียงใหม่


   หนังรักโรแมนติกที่ยังตรึงตราตึงใจหลายๆคน แม้จะผ่านมานานแล้วก็ตาม เป็นสถานที่ที่ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี

3. คิดถึงวิทยา

สถานที่ โรงเรียนบ้านก้อจัดสรร สาขาห้องเรียนเรือนแพ  จังหวัด ลำพูน


   หลายๆคนคงอยากโดดน้ำ นอนริมแพ ดูพระอาทิตย์ตกดิน นอนนับดาวท่ามกลางสายน้ำอันเงียบสงบ แบบครูสองกับครูแอน กันแน่ๆ ซึ่งจริงๆ แล้วโรงเรียนเรือนแพแบบในหนังนี้ มีนักเรียนมาเรียนกันอยู่ 6 คนจริงๆนะ

4. นาคีและลมซ่อนรัก

สถานที่ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม จังหวัด นครราชสีมา
นาคี

ลมซ่อนรัก

   สถานที่สุดสวยที่เป็นสถานที่ถ่ายทำหลักของทั้ง 2 เรื่อง เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมปีละครั้งและแต่ละปีจะมีคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกันออกไป ให้นักท่องเที่ยวได้พลิดเพลิน

5. สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก

สถานที่ เขื่อนแก่งกระจาน จังหวัด เพชรบุรี

   เขื่อนแก่งกระจานเป็นเขื่อนดินกั้นแม่น้ำเพชรบุรีบริเวณเขาเจ้าและเขาไม้รวก จึงทำให้เกิดเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ อยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เหมาะสำหรับท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ

6. ธรณีนี่นี้ใครครอง

สถานที่ ภูทับเบิก จังหวัด เพชรบูรณ์


   ภูทับเบิก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ ด้วยระดับความสูง 1,768 จากระดับน้ำทะเลปานกลาง อุณหภูมิที่หนาวเย็นทั้งปีบนยอดภู และไร่กะหล่ำปลี ที่กว้างใหญ่สุดลูกตา กินบริเวณยอดภูหลายลูก กับฉากสัญญาเกี่ยวก้อยของคู่พระนาง จุดเด่นที่สุดของภูทับเบิก คือ การชมวิวได้รอบทิศ 360 องศา เหนือบรรดาเมฆหมอกที่ลอยอยู่รอบๆ และมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี 

7. ตามรักคืนใจ

สถานที่ บ้านม่อนม่วง อ.แม่ริม จังหวัด เชียงใหม่

   บ้านม่อนม่วน ตั้งอยู่ที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่   ตั้งอยู่บนเนินเขาบนดอย ที่ความสูง 1,250 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล พร้อมด้วยวิวทิวเขาแบบพาโนรามา มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งวันในทุกๆ ฤดู บ้านแต่ละหลังจะขึ้นต้นด้วยคำว่าม่อน ม่อนหมอก ม่อนเมฆ ม่อนตะวัน ม่อนจันทร์ ม่อนดาว อีก 3 หลังจะอยู่อีกปีกนึงมี ม่อนฟ้า ม่อนรุ้ง ม่อนดอย   เป็นบ้านพักแสนสบายเพียง 10 หลัง  ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมล้านนาโบราณ ด้วยรูปทรงขนาด และสัดส่วนของหล๋องข้าวเดิมไว้อย่างลงตัว

 Cr: http://sudsapda.com/top-lists/72842.html
      https://www.chillpainai.com/scoop/4958/
      https://www.edtguide.com

Tuesday, April 10, 2018

สงกรานต์นี้ไปไหนดี? Songkran Water Festival

   ช่วงนี้ก็ใกล้ถึงเทศกาลแห่งความสุข "เทศกาลสงกรานต์" กันแล้วนะค่ะ ทุกคนคงวางแผนกันแล้วว่าจะไปที่ไหนบ้าง? ถ้าใครยังไม่ได้วางแผน วันนี้เรามีสถานที่ท่องเที่ยวมาแนะนำกันค่ะ

1. สงกรานต์ กรุงเทพฯ (Bangkok)

   แน่นอนค่ะว่ากรุงเทพฯของเรานั้นขึ้นชื่อเรื่องการเล่นน้ำสงกรานต์มาก มีผู้คนทั้งไทยและต่างประเทศมาเล่นน้ำกันอย่างมากมาย โดยเฉพาะแถบอโศก สีลม สยาม ถนนข้าวสาร เรียกได้ว่าแถบจะไม่มีที่เดินกันเลยทีเดียว

2. สงกรานต์ ขอนแก่น (Khon Kaen)

   เมืองหลวงแห่งภาคอีสาน ที่ขึ้นชื่อได้ว่าเล่นน้ำสนุก ปลอดภัย ปลอดแอลกอฮอล์ เป็นอีกที่ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางมาเล่นน้ำมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ "ถนนข้าวเหนียว" ที่มีการจัดกิจกรรมอย่างยิ่งใหญ่ในทุกๆปี

3. สงกรานต์บางแสน-พัทยา ชลบุรี (Bang San-Pattaya, Chon Buri)
บางแสน

พัทยา

   2 สถานที่จากจังหวัดชลบุรีที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการเล่นน้ำสงกรานต์ มีผู้คนหลั่งไหลไปสาดน้ำกันอย่างมากมาย มีการจัดกิจกรรมดนตรี ปาร์ตี้กันอย่างสนุกสนานตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางแสนที่มี "วันไหล" ที่มีการเล่นน้ำต่อจากช่วงเทศกาลสงกรานต์และมีกิจกรรม "ก่อกองทราย" ให้ได้ถ่ายรูปกันอีกด้วย

4. สงกรานต์พระประแดง สมุทรปราการ (Phra Pra Dang, Samut Phra Karn)

   หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ ไวันไหล พระประแดง" กันมาแล้ว ที่นี่มีการจัดงานที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอพระประแดง มีขบวนแห่หงส์ธงตะขาบ ขบวนนางสงกรานต์ ขบวนรถบุปชาติ การละเล่นสะบ้า โดยจะจัดในวันที่ 22-24 เม.ย. ของทุกปี

5. สงกรานต์หาดใหญ่ สงขลา (Hat Yai, Song Kla)

   ที่นี่จะมีการจัดที่บริเวญใจกลางเมือง ถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 และแยกถนนธรรมนูญวิถี โดยจะมีการจัดประกวดนางสงกรานต์ ประกวด Miss Tourism การชกมวยทะเล เป็นต้น มีให้ชมขบวนคานิวัลมิดไนท์ด้วยอย่างในปีที่ผ่านมา และห้ามพลาดกับการทำบุญเดือนห้าห่มผ้าพระนอนในช่วงสงกรานต์นี้ และในบริเวณศาลาไทย แหลมสมิหลา อ.เมืองสงขลา จะมีการจัดกิจกรรมสำคัญ คือพิธีทำบุญตักบาตร ขบวนแห่พระพุทธสิหิงค์ และสรงน้ำฯ พิธีรดน้ำผู้อาวุโสอีกด้วย

6. สงกรานต์ ภูเก็ต (Phuket)

  ที่ภูเก็ตนี้เริ่มเล่นน้ำกันตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 12 และแน่นอนว่าจะพลาดแหล่งที่เที่ยวสุดฮิตอย่างหาดป่าตองไปไม่ได้ Songkran on the Beach โดยเฉพาะบริเวณซอยบางลานี่นักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำกันอย่างมากมาย และไปต่อกันที่ Seduction Beach Club & Disco จะมีเหล่าดีเจทั้งในและต่างประเทศมามิกซ์เพลงให้ได้เต้นตามทั้งคืน

   และสุดท้ายนี้ก็อยากจะฝากให้ระมัดระวังในเรื่องของการเกิดอุบัติเหตุอันตราย ไม่เมา ไม่ดื่ม ไม่ขับ ไม่หลับใน หรือกระทำอะไรก็แล้วแต่ที่เสี่ยงก่อให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต อย่าลืมว่า "ยังมีคนที่รักที่ยังคอยคุณอยู่"

Cr: https://dealcha.com

Monday, April 9, 2018

บุฟเฟ่ต์อร่อย ณ ขอนแก่น (A Delicious Buffet at Khon Kaen)

   เดี๋ยวนี้ไปไหนมาไหนก็มีแต่ร้าน บุฟเฟ่ต์เต็มไปหมด วันนี้ก็เลยจะมาแนะนำร้านบุฟเฟ่ต์อร่อย ขึ้นชื่อของจังหวัดขอนแก่นกัน ไปดูกันลยดีกว่าคะว่ามีร้านไหนบ้าง...


1. จุ่มชาบู กังสดาล (Jum Shabu)

   ร้านใหญ่ บริการดี สะอาด มีของให้เลือกเยอะ ทีเด็ดคือ "หมูสไลด์" น้ำซุปหลากหลาย ราคาไม่แพง

2. ชาบู อินดี้ (Shabu Indy)

   อร่อย ของดี มีคุณภาพ น้ำจิ้มเด็ด ราคาตามมาตรฐาน

3. ปลาวาฬใจดี (Pla Wan Jai dee)

   พนักงานบริการดี มีน้ำซุปให้เลือกหลากหลาย อร่อย หมูหมักและหมูสไลด์คือทีเด็ดของที่นี่ ราคาไม่แพง ใจดีสมชื่อ

4. Masaru Premium Japanese Buffet 

   ร้านบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นชื่อดัง มีเมนูให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะสาวกแซลม่อนที่ไม่ควรพลาด บริการดี แต่ราคาค่อนข้างแพง

5. ตะลุยเตา ทะเลเผา (Ta Lui Tao Ta Lae Phao)

   ร้านบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลสด ไซต์ใหญ่ นอกจากนี้ยังมีอาหารคาวและเครื่องดื่มบริการฟรี พนักงานบริการดี ราคาโอเค

6. รอยยิ้ม สเต็ก&นมสด (Roi Yim Steak&Nam Sod)

   ร้านสเต็กบุฟเฟ่ต์ที่ไม่ได้มีดีแค่สเต็ก แต่ยังมีของคาวให้เลือกมากมาย เช่น สปาเก็ตตี้ นักเก็ต ยำ สลัด และมีของหวานอร่อยๆอีกเพียบ ในราคาไม่ถึง 200

7. ชิวเล้า บุฟเฟ่ต์ สุกี้-ชาบู (Chill Out Buffet Suki-Shabu)

   มีอยู่ 2 สาขาคือที่ริมบึงแก่นนครและตลาดต้นตาล มีน้ำซุปแยกหม้อให้แต่ละคนในแต่ละโต๊ะ มีของคาวและของหวานให้เลือกหลากหลาย ราคาไม่แพงมาก

8. T-Bone Steak

   บุฟเฟ่ต์สเต็กที่มีให้เลือกทั้งแบบธรรมดาและใส่พริกไทย มีของหวานและของคาว เช่น มันบด ซุปเห็ด ไอศกรีม ในราคาสุดคุ้ม

9. อาอี๋ เนื้อย่างเกาหลี (A I Korean Barbeque)
อาอี๋-หมูกระทะ

อาอี๋-ชาบู
   ร้านที่มีทั้งหมูกระทะและชาบูให้เลือก มีของมากมาย นอกจากนี้ยังมีบุฟเฟ่ต์ทั้งของคาวและของหวาน ร้านใหญ่ สะอาด ที่จอดรถกว้างขวาง ตอนกลางคืนมีดนตรีสะ ราคาไม่ถึง 200

10. ป.เจริญ BBQ (Pho Charoen BBQ)

   ร้านหมูกระทะ คุณภาพโอเค บริการไว มีอาหารให้เลือกหลากหลายทั้งของคาวและของหวาน มีเมนูเด็ดโดยเฉพาะ "กุ้ง" ราคาโอเค

   ขอนแก่นยังมีร้านอาหารเด็ด อร่อยและชื่อดังอีกมากมาย ที่ทุกท่านสามารถมาตะลุยชิม ตะลุยกินกันได้เลยทีเดียว

cr: Wongnai

Friday, April 6, 2018

บึงกาฬ (Bung Kan)

   บึงกาฬ จังหวัดน้องใหม่ล่าสุดของประเทศไทย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย มีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย

1. ภูทอก (อ.ศรีวิไล ) 

   ภูทอก ภูเขาหินทราย ที่มีวัดเจติยาคีรีวิหาร ตั้งอยู่เชิงเขา และมีสะพานไม้สร้างวนเวียนขึ้นไปสู่ยอดเขารวม 7 ชั้น เพื่อเป็นทางเดินขึ้นไปยังกุฏิและถ้ำที่อยู่ตามหลืบผา และมองเห็นความสวยงามของภูมิประเทศเบื้องล่างได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ถ้าในวันที่อากาศแจ่มใสอาจมองได้ไกลถึงเทือกเขาในเขตจังหวัดนครพนม

2. บึงโขงหลง (อ. บึงโขงหลง) 

   บึงโขงหลง 
ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่เป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์นก โดยเฉพาะนกน้ำที่ย้ายถิ่นเข้ามาในช่วงฤดูหนาว ทั้งห่านป่า นกเป็ดน้ำ นกยาง นกกระเต็น มีจุดดูนกอยู่ดอนสวรรค์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง บริเวณบึงยังมีหาดคำสมบูรณ์ที่มีหาดทรายทอดยาวในช่วงฤดูหนาว เป็นแหล่งพักผ่อนและชมวิวทิวทัศน์ มองเห็นภูลังกาเป็นฉากหลัง

3. น้ำตกเจ็ดสี (อ. บุ่งคล้า)

   น้ำตกเจ็ดสีที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัว สายน้ำไหลตกจากหน้าผาหินทรายแล้วแผ่กว้างออกสวยงามตระการตา ด้านล่างมีแอ่งน้ำสำหรับเล่นน้ำและโขดหินให้นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ

4. วัดสว่างอารมณ์ (อ. ปากคาด)


   วัดสว่างอารมณ์ ภายในวัดมีโบสถ์อยู่ยนก้อนหินใหญ่ หลืบถ้ำด้านล่างเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไสยาสน์ปางปรินิพพาน บริเวณด้านบนก้อนหินเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์สวยงามของแม่น้ำโขง

5.หาดทรายขาว (อ. บึงกาฬ)

   หาดทรายขาว เป็นหาดทรายขาวริมฝั่งแม่น้ำโขงที่สวยงามระยะทางยาวประมาณ 2 กม. เมื่อยามเช้าและเย็นอากาศดีลมพัดเย็นสบาย และความสวยงามเมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ที่มา: https://www.sanook.com/travel/935151/

Tuesday, April 3, 2018

Our Service

 
   Another Tour and Accommodation, we have a Massage Class and Car Rent for convenience to customer and if you want, you can contact with us.


\
We Already to Service You.

Monday, April 2, 2018

บ้านท่าล้ง จ.อุบลราชธานี

   ภาคตะวันออกเฉียงเหนือขึ้นชื่อได้ว่าป็นภาคที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่ยาวนานที่สุดในประเทศไทย เป็นภาคที่รวบรวมผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ศาสนา ไม่ว่าจะเป็นไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา จนทำให้เกิดวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น

ฝั่งโขงจากบ้านท่าล้ง

   บ้านท่าล้ง เป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าบรู มีภาษาพูดที่เป็นเอกลักษณ์ การดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย ผู้คนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร จักสาน ค้าขาย ประมง มีสถานที่ท่องเที่ยว เช่น รอยพระพุทธบาท, ล่องเรือริมฝั่งโขง

ผลิตภัณฑ์จากฝีมือนักเรียน

รอยพระพุทธบาทจำลอง

   การเดินทางเข้าไปที่บ้านท่าล้ง อาจมีความยากลำบากเนื่องจาก
1. ถนนที่ขรุขระ
2. หมู่บ้านอยู่ห่างไกลจากที่อื่นมาก ไม่มีรถประจำทางเข้าถึง ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเท่านั้น

   วิธีการเดินทาง ใช้เส้นเดียวกับทางมาโขงเจียมเลยคะ

   ที่พัก ชาวบ้านที่นี่เปิดเป็นโฮมสเตย์ในบางหลัง สามารถติดต่อเข้าพักได้คะ